Daily Mirror

สร้างสรรค์มุมมอง
อย่างรอบด้าน
เห็นมิติที่กว้างกว่า

พพ.เดินหน้าลดใช้พลังงาน อัดฉีดเม็ดเงินกว่า 500 ล. ผ่าน 3 โครงการสำคัญ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน

“การลดใช้พลังงานในภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง” สานต่อนโยบายของรัฐบาลที่ให้การลดใช้พลังงานเป็นวาระสำคัญของประเทศ ช่วยชาติลดการนำเข้าพลังงาน

พพ.เดินหน้าลดใช้พลังงาน อัดฉีดเม็ดเงินกว่า 500 ล. ผ่าน 3 โครงการสำคัญ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน พร้อมโชว์ผลการดำเนินงาน “การลดใช้พลังงานในภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง” สานต่อนโยบายของรัฐบาลที่ให้การลดใช้พลังงานเป็นวาระสำคัญของประเทศ ช่วยชาติลดการนำเข้าพลังงานได้กว่า 84 ktoe หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 1,260 ล้านบาท/ปี

ดร. ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า จากปัญหาการใช้พลังงานภายในประเทศที่ส่งผลกระทบกับทุกภาคส่วน รัฐบาลได้ประกาศให้การลดใช้พลังงานเป็นวาระสำคัญของประเทศที่ให้ทุกภาคส่วนลดการใช้พลังงาน พพ.ในฐานะหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ในการพัฒนาและส่งเสริมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ได้จัดทำมาตรการสนับสนุนการประหยัดพลังงาน ในภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง เพื่อให้ประเทศชาติผ่านพ้นวิกฤติพลังงานในสถานการณ์ปัจจุบัน

โดย พพ.ได้ดำเนินมาตรการส่งเสริมการประหยัดพลังงานในระดับธุรกิจ ผ่านกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ใช้งบประมาณรวม 500 ล้านบาท ให้การสนับสนุนเงินลงทุน (20-30%) ในการปรับเปลี่ยน ปรับปรุงเครื่องจักร อุปกรณ์ในโรงงานและอาคาร ,ปรับปรุงอุปกรณ์และระบบบริหารจัดการสำหรับการขนส่งสินค้า และการสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนเพื่อลดต้นทุน ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 900 ราย มีผลประหยัดพลังงาน 84 ktoe หรือกว่า 1,260 ล้านบาทต่อปี โดยผลการดำเนินงานของแต่ละโครงการประกอบด้วย

1.โครงการสนับสนุนการลงทุนเพื่อปรับเปลี่ยนปรับปรุงเครื่องจักร อุปกรณ์เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ปี 2564 พพ.ได้เข้าไปสนับสนุนค่าลงทุนบางส่วน 20% -30% ในการปรับเปลี่ยน ปรับปรุงเครื่องจักร อุปกรณ์ ให้แก่โรงงาน SMEs Startup ผู้ประกอบกาภาคเกษตร วงเงินสนับสนุนรวม 378 ล้านบาท มีสถานประกอบการได้รับการสนับสนุน 457 ราย ก่อให้เกิดการลงทุนในระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างน้อย 2,095 ล้านบาท ผลประหยัดที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 20 ktoe ต่อปี หรือคิดเป็นเงินที่ประหยัดได้เกือบ 1,000 ล้านบาท สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 120,000 tCO2
.
2.โครงการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในผู้ประกอบการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร ปี 2564 พพ.สนับสนุนค่าลงทุน 30% หรือไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย มีผู้ได้รับการสนับสนุน 21 ราย คิดเป็นวงเงิน 20 ล้านบาท มีผลประหยัดพลังงาน 1.89 ktoe หรือคิดเป็นเงิน 36 ล้านบาทต่อปี ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 6,000 tCO2 และกระตุ้นเม็ดเงินลงทุนได้กว่า 72 ล้านบาท
.
3.โครงการสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนในภาคความร้อน วงเงินสนับสนุน 103 ล้านบาท ปัจจุบันมีผู้ผ่านการพิจารณา 46 ราย เพิ่มสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงในภาคความร้อน แบ่งเป็น ชีวมวล 60 ktoe และก๊าซชีวภาพ 2 ktoe เทียบเท่ากับ 220,000 ต้นไม้สับต่อปี

ดร.ประเสริฐ กล่าวอีกว่า พพ.ยังได้มีการดำเนินการเพื่อลดการใช้พลังงานในภาคอุตสาหกรรม อาทิ การให้โรงงานควบคุมและอาคารควบคุม รวมกว่า 9,500 แห่ง จัดส่งรายงานผลการตรวจสอบและรับรองการจัดการพลังงาน ปี 2564 มีเป้าหมายประหยัดพลังงานไม่น้อยกว่า 267 ktoe คิดเป็นเงินจำนวน 6,675 ล้านบาท , จัดทำ e-Service การบริการภาครัฐอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้อง สามารถยื่นคำขอและรับแจ้งผลการพิจารณาได้อย่างสะดวก ถูกต้อง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุน ลดการใช้พลังงาน ทั้งด้านเอกสารที่เป็นกระดาษ การเดินทางมายื่นด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์ และลดระยะเวลาดำเนินการ , การเปิดหลักสูตรอบรมออนไลน์ให้กับผู้รับผิดชอบด้านพลังงานในกลุ่มโรงงานควบคุมและอาคารควบคุมที่ยังไม่มีหรือยังมีไม่ครบตามกฎหมายกำหนด
.
ทั้งนี้ พพ. ยังได้จัดทำมาตรการช่วยเหลือหน่วยงานราชการให้ลดการใช้พลังงาน 20% ในอาคารราชการเข้าข่ายควบคุมจำนวน 900 แห่ง และอาคารราชการนอกข่ายควบคุม จำนวน 8,062 แห่ง โดยมีมาตรการ อาทิ ด้วยการสนับสนุนให้มีการกระตุ้นเตือน การอบรมผู้รับผิดชอบด้านพลังงานแบบออนไลน์, ให้คำปรึกษาเชิงรุกในการจัดการพลังงาน, จัดตั้งศูนย์Hotline ให้คำปรึกษาการจัดการพลังงานตามกฎหมาย, สัมมนาชี้แจงการดำเนินมาตรการลดใช้พลังงานในหน่วยงานภาครัฐ, ให้คำแนะนำโดยศูนย์บริการวิชาการทั้ง 10 แห่งทั่วประเทศ เป็นต้น
.
“การประหยัดพลังงานเป็นวิธีดีที่สุดในขณะนี้ ในการที่จะต่อสู้กับสถานการณ์ วิกฤติพลังงานให้ผ่านพ้นไปได้ เพราะการประหยัดพลังงานเป็นสิ่งที่ทำได้ทันทีและเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว” ดร.ประเสริฐ กล่าวในตอนท้าย