Daily Mirror
สร้างสรรค์มุมมอง
อย่างรอบด้าน
เห็นมิติที่กว้างกว่า
วันที่ 28 พ.ค. 2564 เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร จตร.ฯ (สบ.8) ปฏิบัติราชการ บช.น., พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น., พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย รอง ผบช.น., พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.น.4, พ.ต.อ.สินเลิศ สุขุม รอง ผบก.น.4 สั่งการให้ พ.ต.อ.วิชัย ณรงค์ ผกก.สน.หัวหมาก, พ.ต.ท.ดร.ณรัฐช์พงศ์ อุดมศรี รอง ผกก.สส.สน.หัวหมาก และ พ.ต.ต.โกศล ยมศรีเคน สว.สส.สน.หัวหมาก นำกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก จับกุมตัวนาย มนัส หรือเดี่ยว อยู่ดอนไพร อายุ 38 ปี พร้อมของกลางรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า (แท็กซี่) สีชมพู-คาดเขียว คันทะเบียน ทษ 615 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน ยาไอช์ น้ำหนักรวมถุง 6.9 กิโลกรัม และยาบ้าจำนวน 220,000 เม็ด โดยสามารถจับกุมได้ภายใน ซอย รามคำแหง 60 แยก 9 แขวง หัวหมาก เขต บางกะปิ กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2564 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.00 น. ตำรวจชุดจับกุมได้รับเบาะแสว่า จะมีการลักลอบนำยาเสพติดมาส่งโดยจะมีชายขับขี่รถยนต์แท็กซี่ สีชมพู ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน นำยาเสพติดมาส่งให้กับลูกค้าภายในซอยตามเวลาดังกล่าว จากนั้นตำรวจจึงเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ แล้วทำการวางกำลังซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้เคียง ต่อมาได้มีชายขับรถยนต์แท็กซี่ สีชมพู คันทะเบียน ทษ 615 กรุงเทพมหานคร เข้ามาภายในซอย ตำรวจจึงได้แสดงตัว และทำการสกัดรถยนต์แท็กซี่ไว้ได้ และได้ขอทำการตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าว ผลการตรวจค้น พบยาเสพติดจำนวนดังกล่าว ซุกซ่อนอยู่บริเวณที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าของรถยนต์ และที่วางเท้าผู้โดยสารด้านหน้าของรถ
จากนั้นได้ทำการขยายผล จนทราบว่าผู้ต้องหาได้พักอาศัยอยู่บ้านพักย่านดอนเมือง กรุงเทพฯ จึงให้ผู้ต้องหานำไปตรวจค้น ผลการตรวจค้น พบยาเสพติดตามของกลางอีกจำนวนหนึ่งซุกซ่อนอยู่ในลังกระดาษใส่พัดลม วางอยู่ภายในห้องนอนของผู้ต้องหา จำนวนที่เหลือ ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหามายังห้องปฏิบัติการฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ ทางตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน ยาบ้าและยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ” ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
.
นอกจากนี้ พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน เปิดเผยว่า นายมนัส มีหน้าที่ขนส่งยาเสพติด โดยมีผู้สั่งการทางไลน์ว่า วันนี้ต้องไปรับที่ไหนและนำไปส่งที่ไหน สถานที่แต่ละแห่ง ซ้ำบ้าง ไม่ซ้ำบ้าง กระจายทั่วกรุงเทพฯ แม้แต่ที่พักอาศัยก็ย้ายไปย้ายมา เพื่อให้รอดพ้นจากการจับกุมของตำรวจ ส่วนรถแท็กซี่ที่ใช้เป็นของพ่อได้นำมาใช้ขน ทั้งนี้ นายมนัส ถือว่าเป็นขาใหญ่ ในการกระจายยาเสพติดสู่ผู้บริโภค โดยครั้งนี้รับค่าจ้างขน ไอซ์ 2 กก. และยาบ้า 60,000 เม็ด เป็นจำนวนเงิน 30,000 บาท ก่อนที่จะตรวจค้นที่บ้านพักพบของกลาง ไอซ์ 4.9 กก. และยาบ้า 160,000 เม็ด มีจำนวนมากกว่าสถานที่จับกุมดูแล้วผิดวิสัย ของกลางจำนวนดังกล่าวอาจเป็นของผู้ต้องหาเองก็ได้ รับสารภาพทำมาแล้วประมาณ 10 ครั้ง พร้อมบอกชื่อผู้สั่งการว่าเป็นใคร อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การทั้งหมด อยู่ระหว่างขยายผลจับกุมผู้สั่งการ และผู้เกี่ยวข้องต่อไป
