Daily Mirror

สร้างสรรค์มุมมอง
อย่างรอบด้าน
เห็นมิติที่กว้างกว่า

“ตามรอยขุนอิน ๒๐ ปี โหมโรง” ประกวดเดี่ยวระนาดสุดยิ่งใหญ่ ประวัติศาสตร์ดนตรีไทย จะถูกบันทึกขึ้นอีกครั้ง!

สวธ.ชวนย้อนวันวานชม “โหมโรง” ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ดนตรีไทย ด้าน “ขุนอิน” ท้าให้เยาวชนจับไม้ไล่ระนาด “ตามรอยขุนอิน ๒๐ ปี โหมโรง” ประชันชั้นเชิงระนาด ชิงเงินรางวัลรวมสูงสุดกว่าหนึ่งแสนบาท พร้อมเข็มขัดแชมป์ ปูทางสู่มือระนาดอาชีพ

สวธ.ชวนย้อนวันวานชม “โหมโรง” ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ดนตรีไทย ด้าน “ขุนอิน” ท้าให้เยาวชนจับไม้ไล่ระนาด “ตามรอยขุนอิน ๒๐ ปี โหมโรง” ประชันชั้นเชิงระนาด ชิงเงินรางวัลรวมสูงสุดกว่าหนึ่งแสนบาท พร้อมเข็มขัดแชมป์ ปูทางสู่มือระนาดอาชีพ

เสียงระนาดจะก้องกังวานสะกดใจอีกครั้ง เมื่อโครงการ “ตามรอยขุนอิน ๒๐ ปี โหมโรง” ได้จัดแถลงข่าวเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยมีบุคคลสำคัญในแวดวงดนตรีไทย และนักแสดงนำจากภาพยนตร์โหมโรง รวมทั้งผู้สนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน จับมือกันเพื่อรำลึกถึงภาพยนตร์ที่สร้างตำนานดนตรีไทยและส่งเสริมให้เยาวชนที่มีใจรักดนตรีไทย ได้มีเวทีแสดงความสามารถ พร้อม โดยในช่วงเช้า กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกับบริษัทสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จัดฉายภาพยนตร์เรื่องโหมโรง ซึ่งเป็นภาพยนตร์ในปี พ.ศ. 2547 ให้ผู้สนใจเข้าชมฟรี ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงเนื้อหาเกี่ยวกับดนตรีไทย และได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตของหลวงประดิษฐไพเราะ ต่อด้วยการเสวนาเรื่อง “20 ปี ภาพยนตร์โหมโรง” โดยมีผู้ร่วมพูดคุย ได้แก่ อาจารย์อัษฎาวุธ สาคริก เลขาธิการ มูลนิธิหลวงประดิษฐไพเราะ, อาจารย์ขุนอิน ณรงค์โตสง่า และโอ อนุชิต สพันธุ์พงษ์ เพื่อย้อนปรากฏการณ์ที่ปลุกให้คนไทยหันมานิยมดนตรีไทย ภายในงานยังมี ว่าน-ภูวฤทธิ์ พุ่มพวง นักแสดงในบท “เทิด” มาร่วมฟังด้วย

ส่วนภาคบ่าย เป็นการแถลงข่าว “ตามรอยขุนอิน ๒๐ ปี โหมโรง” เปิดงานด้วยการแสดงประชันระนาดเอกเชิดต่อตัว โดยลูกศิษย์อาจารย์ขุนอิน เรียกเสียงปรบมือกึกก้องหอประชุมเล็ก จากนั้นได้เชิญผู้เกี่ยวข้องขึ้นมาร่วมพูดคุยบนเวที ได้แก่ นางสาววราพรรณ ชัยชนะศิริ รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม, อาจารย์ขุนอิน ณรงค์โตสง่า ผู้บริหาร บริษัทขุนอิน โชว์ จำกัด นายวีระพล มงคลพูนเกษม ผู้บริหาร เคเค ริเวอร์ไซด์รีสอร์ท แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และนายประณัย สายชมภู กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพ ลา เพลิน บูติค รีสอร์ท จำกัด (เพ ลา เพลิน เดอะ เจอร์นีย์ แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี) ผู้สนับสนุนเงินรางวัล

อาจารย์ขุนอิน ณรงค์โตสง่า กล่าวในฐานะคนต้นคิดโครงการว่า เพื่อเป็นการระลึกถึงภาพยนต์เรื่องโหมโรงที่มีอายุครบ 20 พร้อมๆ กับอยากกระตุ้นให้เด็กและเยาวชนที่ตีระนาดเอกได้มีการตื่นตัวมากขึ้น มีการฝึกซ้อมมากขึ้นกว่าเดิม อีกเหตุผลสำคัญคือเป็นการยกระดับการประกวดระนาดเอกด้วย “ปัจจุบันการประกวดดนตรีไทยมีการจัดกันอย่างเเพร่หลายก็จริง เเต่การประกวดในเเต่ละสถาบันจะไม่มีค่าใชัจ่าย หรือเงินรางวัลให้เเก่เด็ก แต่การประกวดครั้งนี้จะมีรางวัลชนะเลิศให้กับเด็กสูงถึงห้าหมื่นบาท ถือว่าเป็นเงินรางวัลสูงสุดในประวัติศาตร์ นอกจากนี้ยังมีเข็มขัดเเชมป์ให้กับผู้ชนะเลิศ เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับวงการดนตรีไทยครับ”

ซึ่งกิจกรรมนี้ ตรงกับแนวคิดของ นายวีระพล มงคลพูนเกษม ผู้บริหาร KK Riverside Resort แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่มีความรักดนตรีไทย และต้องการสนับสนุนเยาวชนไทยให้หันมาสนใจดนตรีไทยมากขึ้น จึงให้งบประมาณและเงินรางวัลสนับสนุนการจัดในครั้งนี้อย่างเต็มที่ “ถ้าพูดถึงการริเริ่มความชอบเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมดนตรีไทย ต้องเริ่มจากการที่ผมได้ดูหนังเรื่องโหมโรง ที่ท่านอาจารย์ขุนอินเป็นผู้เล่นครับ การดำเนินเรื่อง ฝีมือในการแข่งขัน การประชันความสามารถของอาจารย์ ทำให้ผมประทับใจมาก และเมื่อตอนผมเด็กๆ ผมก็อยากที่จะมีโอกาสได้ลองเล่นดนตรีไทยบ้าง แต่ด้วยโอกาสในตอนนั้นยังไม่มีคนสนับสนุนหรือให้โอกาสผมครับ

ดังนั้น เหตุผลที่ผมได้ร่วมจัดงานในครั้งนี้ เพื่อให้โอกาสเด็กไทยที่มีฝีมือ หรือมีความสามารถ แต่ยังไม่เคยได้รับโอกาสได้ออกมาแสดงศักยภาพกันให้เต็มที่ เป็นการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมให้เด็กรุ่นใหม่ได้เรียนรู้สืบต่อไป ผมว่าการเล่นดนตรีไทยในปัจจุบัน ถ้าไม่ใช่ความชอบส่วนตัว ก็คงริเริ่มได้ยาก ผมจึงอยากร่วมในการจัดงานครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้เด็กไทยได้เข้าถึงศิลปวัฒนธรรมได้ง่ายขึ้น และเพิ่มโอกาสในด้านต่างๆ ให้กับเขาครับ”

ทั้งนี้ นายวีระพล ได้สนับสนุนสถานที่ในการจัดแข่งขัน เงินรางวัลรวม 80,000 บาท และเข็มขัดแชมป์มูลค่า 30,000 บาท พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมหวังอย่างยิ่งว่าจะสามารถเป็นแรงผลักดันเล็กๆ ให้กับวงการดนตรีไทย เพื่อให้ดนตรีไทยยิ่งใหญ่อยู่คู่ประเทศต่อไปครับ”

ด้าน นางสาววราพรรณ ชัยชนะศิริ รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึงการเข้ามาเป็นเจ้าภาพร่วมจัดงานแถลงข่าว การประกวดเดี่ยวระนาดเอก “ตามรอยขุนอิน ๒๐ ปี โหมโรง” ว่า “ตามนโยบายรัฐบาลได้มีการผลักดัน THACCA หรือ Thailand Creative Content Agency โดยการสนับสนุนพลังสร้างสรรค์ หรือ Soft Power ของประเทศ การเล่นดนตรีไทยเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมทักษะ Soft Power ในมิติทางวัฒนธรรมให้กับเยาวชน กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม มีภารกิจในการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ดนตรีไทยถือเป็นมรดก ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่มีความสำคัญของชาติไทย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จึงได้ให้การสนับสนุน โดยเป็นเจ้าภาพร่วมจัดงานแถลงข่าว และให้ความอนุเคราะห์เรื่องสถานที่ในการจัดงานครั้งนี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จึงขอเชิญชวนน้อง ๆ เยาวขน คนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถทางดนตรีไทย การเล่นระนาดเอก เข้าร่วมโครงการประกวดเดี่ยวระนาดเอก ตามรอยขุนอิน ๒๐ ปี โหมโรง” เพื่อร่วมสืบทอดและรักษาดนตรีไทย ให้เกิดความยั่งยืนต่อไป”

สำหรับการจัดการประกวดครั้งนี้ “ขุนอิน” ย้ำว่า ได้เปิดให้ส่งผลงานทางออนไลน์จนถึงวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๗ และจะมีประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก จำนวน ๑๐ คน ผ่านทางเพจ Facebook : ตามรอย ขุนอิน ๒๐ ปี โหมโรง facebook.com/profile.php?id=61556541087333 ในวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๗ ส่วนผลรอบชิงชนะเลิศ จะประกาศในวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๗ ณ KK Riverside Resort ที่พัก พูลวิลล่า แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

หลังจากได้ผู้ชนะการคัดเลือกทั้ง ๒ สายแล้ว ผู้เข้าประกวดจะต้องบรรเลงประชันต่อหน้าคณะกรรมการอีกครั้ง โดยจับฉลากบรรเลงก่อนหลัง เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกผู้ชนะอันดับ ๑ ซึ่งผู้ได้รับการตัดสินรางวัลชนะเลิศ จะได้รับเงินรางวัล ๕๐,๐๐๐ บาท พร้อมเข็มขัดแชมป์ และเกียรติบัตร ส่วนรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ ๑ จำนวนเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท พร้อมเกียรติบัตร และรางวัลสำหรับผู้เข้ารอบ ๘ คน จำนวนเงินคนละ ๒,๕๐๐ บาท พร้อมเกียรติบัตร

#ตามรอยขุนอิน๒๐ปีโหมโรง #ระนาดเอก #เดี่ยวระนาดเอก #เพลงสารถี๓ชั้น #กรมส่งเสริมวัฒนธรรม