Daily Mirror

สร้างสรรค์มุมมอง
อย่างรอบด้าน
เห็นมิติที่กว้างกว่า

“หนุ่ม-แดนนี่” ยินดีกับพิธีกรตัวแม่ “เพลินพิศ” ครองเวทีปีที่ 23

ใกล้ถึงวันเต็มที สำหรับเวทีประกวด “ธิดาศาลตายาย 2566” (สาวประเภทสอง) และ “วันแมนวันวูแม่น” ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 4 และ 5 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ณ เวทีกลาง ตรงข้ามศาลตายาย จ.สุพรรณบุรี ซึ่งบรรดาหนุ่มหล่อ และสาวงาม LGBTQ ต่างก็แห่แหนเข้าประกวดกันอย่างคับคั่งหวังชิงตำแหน่ง ตามคอนเซ็ปต์ “แต่งแล้วหล่อได้เป็นหลานตา แต่งแล้วสวยสง่าได้เป็นหลานยาย” แต่ที่ปังสุด ดูเหมือนจะเป็นสาวสวย “เพลินพิศ คิดถึงคุณ” ที่รับหน้าที่พิธีกรตัวมัม ตัวมารดา มายาวนานถึง 22 ปี งานนี้เจ้าพ่อผับเกย์อย่าง “หนุ่ม จีสตาร์” หรือ “ทรงกฤษดากร ไตรรัตนรังษี” ก็ได้ออกมาโพสต์แสดงความยินดีกับพิธีกรฝีปากจัดจ้านผ่าน Facebook ว่า งานนี้ไม่มีใครเหมาะสมกับหน้าที่นี้เท่าเพลินพิศอีกแล้วว่า “ขอแสดงความยินดี กับ พิธีกรฝีปากกล้า เพลินพิศ คิดถึงคุณ ที่ได้รับหน้าที่เป็นพิธีกร ธิดาศาลตายาย ปีที่ 23 พี่เพลินอยู่กับการประกวดสาวสองทั่วฟ้าเมืองไทยกว่า 30ปี พี่เพลินมีไหวพริบแก้ปัญหาบนเวทีได้ทุกครั้ง สมัยที่ จีสตาร์มีประกวดบ่อยมาก พี่เพลินก็เป็นพิธีกรยาวมาโดยตลอด สร้างความประทับใจ เสียงหัวเราะให้กับผู้ชมเสมอมา ปีนี้ ถ้ามีโอกาสจะไปเยี่ยมชมการประกวด ธิดาศาลตายาย ดีใจน่ะครับที่พี่เพลินได้รับใช้ตายายอีกปี พวกเราและชาวสุพรรณบุรีคงได้หัวเราะ มีความสุขกันมากเลยทีเดียวเช่นทุกปี”

ส่วน “แดนนี่ กิตตินันท์ ธรมธัช” หรือ “แดนนี่ เดอะบีช” นายกสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย ก็ได้กล่าวชื่นชมถึงพิธีกรคนเก่งด้วยเช่นกัน “เรารู้จักคุณเพลินพิศ คิดถึงคุณ มาประมาณปลายปี 2543 ถึงวันนี้ก็ร่วม 24 ปีเต็ม สนิทสนมกันดีในฐานะเป็นแม่ลูกกันจนถึงทุกวันนี้ ด้วยความที่เราเองในเวลานั้น ได้ทำกิจการเกี่ยวกับเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ในนาม เดอะบีช กรุ๊ป หลากหลายกิจการเช่น ซาวน่าเกย์ ผับเกย์ โรงแรม ร้านนวดร้านอาหาร ต่างๆ และได้เห็นความสามารถของคุณเพลินพิศ มาในอดีต ก่อนที่รู้จักกันว่าเธอเองเป็นคนที่มีมันสมองแหลมคมในการการตลาดและประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับกิจการต่างๆที่ไม่เหมือนคนอื่นๆ เลย โดยเธอได้แสดงความสามารถพิเศษในการพูดสร้างแรงบันดาลใจ และมีมันสมองใน เชิงธุรกิจประกอบด้วยอย่างที่สุด และการพูดของเธอนั้นมิได้สร้างแรงบันดาลใจอย่างเดียว แต่เธอมีมุกสาระบันเทิงที่ใครใครหาเปรียบเทียบไม่ได้อย่างยิ่ง จนเธอเองต้องกลายเป็นพิธีกรไฟแรงและแซงทางโค้งอีกหลายหลายท่าน จนถึงทุกวันนี้ และยังไม่เคยเห็นว่าจะมีใคร ลดทอนหรือดับความมีคุณค่าในการเป็นพิธีกรมือทองของเธอได้จนถึงทุกวันนี้เลย และตัวเธอเองก็มีคนรักมากมายรอบตัวไม่ว่าจะเป็นปู่ย่าตายาย พ่อแม่พี่น้อง ผู้ประกอบกิจการหลากหลายอาชีพ และโดยเฉพาะสำคัญอย่างยิ่งคือลูกค้าที่มาใช้บริการในสถานที่ต่างๆที่เธอได้ไปเป็นพิธีกรในเกือบทุกสถานที่ ที่เป็นสถานบันเทิงของกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ เรียกได้ว่าเธอยึดพื้นที่ความเป็นพิธีกรในกลุ่มหลากหลายทางเพศในสถานบันเทิงต่างๆจนเรียบวุธ ที่ไม่มีใครสามารถที่จะทำได้อย่างเธอเลยจริงๆ

จนกระทั่งเครือข่ายความหลากหลายทางเพศไม่ว่าจะเป็นรูปขององค์กรภาคประชาสังคม ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจต่างๆ และโดยเฉพาะชุมชนบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศในทุกๆเพศสภาพต่างก็รักใคร่และชื่นชมในการทำงานของเธอ ด้วยเป็นพิธีกรปากดีไฟแรงแซงทุกสิ่ง จนพูดได้ว่า ยังไม่มีใครสามารถที่จะเทียบเคียงเธอหรือแซงเธอได้เลยจนถึงทุกวันนี้ อีกทั้งความมีน้ำใจและใจกว้างของเธอ ก็ทำให้เธอดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขในทุกๆ รูปแบบ เธอเป็นคนมักน้อยแต่ได้มาก อันนี้หมายถึงเรื่องเงินนะครับ เธอช่วยเหลือคนบางครั้งก็ไม่ได้มุ่งหวังเรื่องค่าตอบแทนที่สูงส่ง แต่ท้ายที่สุดเธอก็กลับได้ในสิ่งตรงกันข้าม คือคนก็จะหยิบยื่นค่าตอบแทนให้เธออย่างที่เรียกว่าโดยเสน่หาอาดูรจริงๆ และ ตัวเธอเองก็เป็นคนที่มีความกตัญญูกตเวทิตาต่อบุพการีอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้ชีวิตของเธอรุ่งเรืองจนถึงทุกวันนี้ และยินดีที่สุดกับการที่เธอได้อยู่ในวงการพิธีกรปากดีแซงทุกสิ่ง และขอให้เธออยู่คู่กับวงการดังกล่าวนี้ต่อไปตราบนานเท่านาน และหวังว่าเธอจะได้ทำให้บุคคลต่างๆได้ชุ่มชื่นหัวใจกับเสียงพิธีกรของเธอ และมุกสาระบันเทิงของเธอ เพื่อจะสร้างความบันเทิงเริงรมย์ และสร้างแรงบันดาลใจให้อยู่ในโลกใบนี้ได้อย่างมีความสุขตลอดไป ขอชื่นชมและยินดีที่สุด ที่ในโลกใบนี้ได้ส่งคุณเพลินพิศ คิดถึงคุณให้มาอยู่เคียงข้างพวกเราชาวหลากหลายทางเพศตลอดไป

ทางด้านพิธีกรสาวคนเก่ง ก็ออกมายอมรับว่า ที่มงลงทุกปีมาจนเข้าสู่ปีที่ 23 ได้นั้น เพราะความสามารถและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเธอจริงๆ “เป็นพิธีกรเวทิธิดาศาลตายายติดต่อกันมา 22 ปีแล้วค่ะ ที่ได้เป็นพิธีกรมาตลอดยาวนานอาจเป็นเพราะเรามีเอกลักษณ์ของเรา การพูดการจาของเราไม่เหมือนคนอื่น แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้เค้าได้ ไม่น่าเบื่อ ไม่เหมือนพิธีกรคนอื่นๆ ซึ่งปีนี้ก็เป็นปีที่ 23 แล้ว ก็ดีใจไม่คิดว่าจะได้เป็นพิธีกรยาวนานขนาดนี้ บางคนเป็นแค่ 5-6 ปี คนก็เบื่อแล้ว แต่เรากลับได้ทำทุกปี ยกเว้นช่วงที่มีโควิด ซึ่งทางผู้จัดงานเองเค้าก็ไม่เคยเอาใครมาแทนเราเลย เราทำคนเดียวตลอด นอกจากเราเอาใครไปช่วยสลับสับเปลี่ยนบ้าง แต่หลักๆ แล้วก็เป็นเรา อาจเป็นเพราะ เราทำตรงนี้มาตั้งแต่มีการประกวดแรกๆ ซึ่งก็มีคนมาขอทำหน้าที่นี้แทนเราด้วยนะ แต่ทางผู้จัดงานเค้าก็ไม่เอา” รู้สึกยังไงที่ หนุ่ม จีสตาร์ และ แดนนี่ เดอะบีช มองว่า หน้าที่พิธีกรเวทีธิดาศาลตายาย คือต้องเป็นเพลินพิศเท่านั้น เพราะเหมาะสมที่สุดแล้ว “รู้สึกดีใจ เพราะเวทีธิดาศาลตายายเป็นเวทีใหญ่ คนสมัครเป็น 100 พูดไปไม่มีใครเชื่อ ว่ามีคนมารอดูเราด้วยนะ เพราะเวทีนี้ไม่มีศิลปิน เราต้องดึงความสนใจคนดูตั้งแต่ 2 ทุ่มจนถึงงานเลิก เสน่ห์ของเวทีนี้ไม่เหมือนเวทีอื่นๆ คณะกรรมการตัดสินล้วนเป็นคนมีชื่อเสียง เช่นภรรยาผู้กำกับ ประธานหอการค้า เมียผู้ว่า เค้าไม่ได้สนใจว่าผู้เข้าประกวดเป็นใคร มาจากไหน ให้คะแนนตรง ชัดเจน พี่เลี้ยงนางงามสามารถเอาคะแนนไปคำนวณได้เลยว่าใครได้คะแนนเท่าไร และเดาได้ว่าใครจะได้มง ไม่ได้มง”

อยากฝากอะไรถึงคนที่ตั้งใจมาดูเรา “สำหรับคนที่ตั้งใจมาดูเรา ก็อยากให้เปิดใจนิดนึงกับคำพูดของเรา เพราะเวทีนี้นอกจากจะมีคนสวยมาประกวดแล้ว ก็จะมีคนที่ไม่สวยมาประกวดด้วย ออกแนวตลก เรียกว่ารางวัลพยายามสวย ซี่งเราก็ต้องแซวเค้าแรงๆ มันคือการฉายแสงให้เค้า แต่คนก็จะคิดว่าเราไปบุลลี่เค้า จริงๆ อยากให้มองให้เป็นความสนุกสนานมากกว่าค่ะ” ตอนนี้มีข่าวแว่วๆ มาว่า “จีสตาร์” กำลังจะกลับมาเปิดใหม่อีกครั้ง งานนี้ พิธีกร งานกิจกรรมต่างๆ ก็คงไม่พ้นเพลินพิศ คิดถึงคุณ แน่นอน