ผู้คนโดยทั่วไปย่อมชอบดูสิ่งที่สวยงาม แช่มชื่นเบิกบานใจกันทุกคน พุทธศาสนารู้ทันธรรมชาติข้อนี้ของมนุษย์ส่วนใหญ่ในสังคมที่ยังคงเป็นปุถุชนว่ายังมีกิเลสอันยึดติดอยู่ในความงาม พุทธศาสนาจึงได้ใช้ความงามนี้เองเป็นอุบายในการโน้มนำใจของมนุษย์ให้คิดดี เพื่อน้อมนำกายให้กระทำความดี ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดงานศิลปะที่สร้างสรรค์อย่างวิจิตรบรรจงที่มีคุณค่าทางพุทธศาสนาในฐานะที่เมื่อเสพงานศิลปกรรมแล้วสามารถทำให้เกิด “กุศลจิต” ที่น้อมนำใจให้เราคิดดี ประพฤติดีตามแนวทางของศาสนา
.
พุทธศาสนิกชนไทยล้วนเคยเข้าวัดวาอารามมาแล้วทั้งสิ้น สายตาที่ได้แลเห็นจิตรกรรมฝาผนัง และปูนปั้นที่ประดับตกแต่งอุโบสถ และวิหารภายในวัดย่อมทำให้ใจได้สัมผัสกับความงดงามของผลงานศิลปกรรมภายในวัดที่ช่างได้บรรจงสร้างขึ้นอย่างวิจิตรงดงาม ให้ความรู้สึกดุจจำลองทิพยวิมานบนสรวงสวรรค์อันศักดิ์สิทธิ์มาไว้บนโลกมนุษย์ แผนผังวัดจำนวนไม่น้อยถึงกับจำลองเขาพระสุเมรุบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ที่เป็นศูนย์กลางของจักรวาลพร้อมด้วยเจดีย์จุฬามณีมาประดิษฐานบนโลกมนุษย์กันเลยทีเดียว ทำให้พวกเราไม่จำต้องเสียเวลาเหาะไปถึงดาวดึงส์เพื่อที่จะไหว้เจดีย์จุฬามณีแต่อย่างใด
.
เมื่อการเดินทางเข้าวัดเปรียบดุจการเดินทางขึ้นสู่สวรรค์เช่นนี้แล้ว เราจึงย่อมพบเห็นเทวดาและนางฟ้าประดับตกแต่งอยู่ทั้งในงานจิตรกรรมฝาผนังภายในอุโบสถ วิหาร หรือเป็นรูปประติมากรรมประดับหน้าบันได้ทั่วไป
.
แต่ผมอยากถามว่า เราเคยสังเกตบ้างไหมว่า เทวดาและนางฟ้าทุกอนงค์นางที่งดงามทุกองค์ล้วนปรากฏในรูปกายที่เป็นหนุ่มหล่อและสาวสวยทั้งสิ้น เราจะไม่มีวันได้พบภาพของเทวดาและนางฟ้าในศิลปกรรมของพุทธศาสนาที่แสดงด้วยรูปกายของวัยเด็กและวัยชราเลย
.
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้นล่ะ ?
.
ถ้าเรารู้จักพุทธศาสนาดีพอจะตอบได้ไม่ยากเลย คติทางพุทธศาสนากล่าวว่า เทวดาและนางฟ้ามีกำเนิดที่แตกต่างจากมนุษย์ ซึ่งเรียกการอุบัติของเทวดาว่า “อุปปาติกโยนิ” คือ เมื่อเทวดาและนางฟ้าจุติขึ้นมาบนสวรรค์แล้วก็จะมีรูปกายที่เป็นหนุ่มเป็นสาวหล่อเหลาและสวยงามในทันทีโดยไม่ต้องผ่านวัยเด็ก และจะคงรูปกายความเป็นหนุ่มสาวเช่นนั้นตลอดช่วงอายุขัยของความเป็นเทวดาโดยไม่แก่ชราไปตามเวลาเลย
.
แล้วความหล่อ ความสวยเช่นนั้นได้มาอย่างไรกัน?
.
ความสวยและความหล่อเหลาอันงดงามของเหล่าเทวดาและนางฟ้านั้น เกิดขึ้นได้ก็เพราะเมื่อครั้งที่เป็นมนุษย์ได้ทำกรรมดีต่างๆ เช่น เชื่อว่าหากผู้ใดทำบุญด้วยการสร้างวิหารหรือธรรมาสน์ถวายแก่พระศาสนาแล้ว เมื่อตายไปก็จะได้จุติเป็นเทวดามีทิพยมานที่งดงามดุจวิหารและธรรมาสน์ที่ตนได้สร้าง และเมื่อหมดบุญได้จุติเป็นมนุษย์แล้วก็จะมีรูปกายที่งดงามหล่อเหลา หรือในชาดก เช่น จันทเสนชาดก กล่าวว่าหากปฏิสังขรณ์ และปิดทองพระพุทธรูปที่ชำรุด ผลบุญชาติต่อไป คือ จะได้จุติเป็นเทวดา และหากเกิดเป็นหญิงก็จะมีผิวขาวเนียนเรียบสวย
.
พูดง่ายๆ คือ ชาวพุทธสายพันธุ์แท้ดั้งเดิม ถ้าอยากสวยอยากหล่อหรืออยากงดงามไม่ว่าจะเป็นระดับคนหรือเทพ ก็ต้องหมั่นทำความดีมากๆ เข้าไว้ ถ้าทำมากก็ยิ่งเกิดมาหล่อมาก สวยมากนั่นเอง
.
“ความงาม” จึงย่อมเป็นเนื้อเดียวกับ “ความดี” อย่างไม่อาจแยกจากกันได้
.
ความสวย และความหล่อตามแบบของพุทธศาสนาเช่นนี้ จึงมิใช่เป็นความงดงามเพียงรูปกายภายนอกที่เห็นได้ด้วยตาเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความงดงามของจิตใจอันดีงามที่ต้องใช้ใจสัมผัสอีกด้วย
.
เรียกได้ว่า “เห็นแค่รูปก็รู้ไปถึงใจ” อันงดงามหมดจดได้ และเน้นย้ำให้พวกเรารู้ว่าที่สุดแล้วก็อย่าติดแค่ความงามในรูปกาย แต่ไปให้ถึงเบื้องหลังอันเป็นสาเหตุของรูปกายที่งดงาม นั่นคือ การทำความดี เพราะถ้าใครได้ใกล้ชิดกับคนที่มีจิตใจดีเช่นนี้ย่อมมีความสุข
.
คุณค่าและความหมายของความเชื่อทางพุทธศาสนาเช่นนี้ คือ เตือนให้มนุษย์รู้ว่า ความสวย และความหล่อมีที่มาจากการทำกรรมดี ประพฤติดี ถ้าอยากสวยและหล่อก็ต้องหมั่นทำความดี ประพฤติดีให้มากๆ
.
อย่างไรก็ตาม เมื่อเราก้าวมาอยู่ในยุคปัจจุบัน ความเชื่อเช่นนั้ดูจะสวนทางกับโฆษณาชวนเชื่อในยุคคอมพิวเตอร์ที่กรอกหูผู้คนในวันนี้ตลอด ๒๔ ชั่วโมงว่า ความหล่อ ความสวย และขาวใส คือ สิ่งที่สามารถใช้ “เงิน” หาซื้อมาครอบครองได้ด้วยการทำศัลยกรรม หรือการใช้ Whitening Gel มากกว่า เพราะถ้าขืนมัวมารอทำกรรมดี ดูจะเห็นผลช้า ย่อมไม่ทันอกทันใจ และไม่มั่นใจว่าจะได้ผลแน่นอนนัก
.
ฉะนั้นหากอยากจะได้ความงดงามมาครอบครองให้อยู่ในเรือนร่างของตนก็ไม่จำเป็นต้องประพฤติดี ทำกรรมดีก็ได้ เพราะฉะนั้น เราจึงอาจจะได้คนที่ “งาม” อย่างปราศจากความประพฤติที่ดีก็ได้ในโลกปัจจุบัน
.
ก็เพราะว่า พวกเราในยุคนี้เองที่ทำให้คุณค่าของความงามถูกแยกขาดออกจากความดี หรือการทำดีอย่างเด็ดขาด ทุกคนก็เลยงามได้ สวยได้ โดยไม่จำเป็นต้องทำความดี
.
“ความงาม” จึงแยกขาดจาก “ความดี” ได้อย่างเด็ดขาด
.
เมื่อเป็นเช่นนี้ “เห็นเพียงแค่รูป จึงมิอาจหยั่งรู้ถึงใจว่าจะเป็นอย่างไรได้”
.
สังคมไทยในอดีตภายใต้พุทธศาสนาย่อมคุ้นเคยและรู้ดีว่า คุณค่าของความงามไม่สามารถแยกออกจากการทำความดีและมีความสัมพันธ์กันเสมอระหว่าง “ความดี” และ “ความงาม” ว่าเป็นของที่คู่กันดังวลีในภาษาไทยที่มักได้ยินกันเสมอว่า “ดีงาม” เช่น หากเราเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่เพื่อนมนุษย์ และบริจาคทานก็มักได้รับคำชมและอนุโมทนาในการประพฤติดีเช่นนั้นว่า
.
“…การกระทำเช่นนี้เป็นสิ่งที่ดีงาม…”
.
เพราะเชื่อว่าการทำดี ประพฤติดีย่อมส่งผลบุญให้มีรูปกายที่งดงาม รูปกายอันงดงามจึงไม่ได้มีคุณค่าบ่งชี้เพียงแค่ว่าสวยหรือหล่อ แต่ยังบ่งชี้ถึงการเป็นคนดีมีความประพฤติและมีจรรยาดี และยังเป็นเครื่องเตือนสติให้ผู้มีความงามในเรือนกายใด้พึงตระหนักในการกระทำกรรมดี และประพฤติตนที่ดี
.
ผมมีน้องเป็นนักเทคนิคการแพทย์ที่ใช้ชีวิตอยู่กับกล้องจุลทรรศน์ทุกวัน น้องเล่าว่า เขารู้จักมนุษย์ลึกลงไปถึงระดับเนื้อเยื่อและเม็ดเลือด ที่คนทั่วไปมองไม่เห็น แต่พอถามว่า แล้วรู้ไหมว่าเจ้าของเลือดหยดนั้น และเนื้อเยื่อชิ้นนั้นเป็นคนดีหรือคนเลว ? น้องหัวเราะแล้วตอบว่า
.
“…มันตรวจไม่ได้หรอกพี่…”
.
ความเจริญรุดหน้าของอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์แม้จะพัฒนาไปไกลจนรู้จักมนุษย์ถึงระดับ DNA แล้ว แต่กลับไม่ได้ช่วยให้เรารู้จักคุณค่าความประพฤติของเพื่อนมนุษย์เพิ่มขึ้นได้เลย
.
เมื่อเป็นเช่นนี้ แม้ปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ จะทำให้เราเห็นหน้าและอ่านวาจาของผองเพื่อน พี่น้องได้ใกล้ชิดตลอดเวลาผ่านทาง Facebook อย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะหยั่งรู้ถึงจิตใจของเพื่อนมนุษย์ได้อย่างแท้จริงง่ายดายเหมือนดูรูปเสมอไป เพราะจิตใจและความประพฤติอาจตรงกันข้ามกับหน้าตาและวาจาที่เห็นผ่านหน้าจอที่สามารถ “สร้างภาพ” ผ่านโลกแบบเสมือนจริงก็เป็นได้
.
เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว แม้ในปัจจุบันด้วยอำนาจทางเทคโนโลยีอาจดูเสมือนว่าทำให้มนุษย์ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น แต่ก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะทำให้เรารู้จักตัวตนที่แท้จริงของเพื่อนมนุษย์ได้ดีขึ้นเสมอไป.
.
บทความโดย สุรชัย จงจิตงาม
Related Posts
อลังการงาน Networking Reception บางกอกเจมส์ ครั้งที่ 68 DITP จับมือ GIT เชิญนักธุรกิจจิวเวลรีไทยและนานาชาติร่วมงานอย่างคับคั่ง
Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine อลังการงาน Networking Reception บางกอกเจมส์ ครั้งที่ 68 DITP จับมือ GIT เชิญนักธุรกิจจิวเวลรีไทยและนานาชาติร่วมงานอย่างคับคั่ง 6 กันยายน 2566 – นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) และ นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (GIT) จัดงาน Networking Reception ในงาน “Bangkok Gems and Jewelry Fair” ครั้งที่ 68 ณ ห้องเพลนารี ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีนักธุรกิจในอุตสาหกรรมจิวเวลรี่ไทยและองค์กรระดับนานาชา […]
Content Writer
กันยายน 7, 2023คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ลงนามบันทึกความร่วมมือกับ บริษัท ทัชเทคโนโลยี จำกัด เพื่อพัฒนาต้นแบบสถานีสุขภาพดิจิทัลและสร้างนวัตกรรม การบริการทางการแพทย์รูปแบบใหม่
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ลงนามบันทึกความร่วมมือกับ บริษัท ทัชเทคโนโลยี จำกัด เพื่อพัฒนาต้นแบบสถานีสุขภาพดิจิทัลและสร้างนวัตกรรม การบริการทางการแพทย์รูปแบบใหม่
Content Writer
สิงหาคม 19, 2023ส้มหยุด!!! ใครจะมากั้น นายกคนที่ 30??
Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine พยากรณ์การเมืองไทย : ส้มหยุด!!! ใครจะมากั้น นายกคนที่ 30?? (อสุรา พยากรณ์) เดลิมิเร่อร์ ออนไลน์ 26 พ.ค. 66 ดูดวงผู้คนมาหลายปี ได้เข้าใจว่าหลายครั้งที่เราไม่อาจเปลี่ยนแปลงโชคชะตา แต่ในบางคราเราเองก็สามารถกำหนดอนาคตของเราขึ้นใหม่ ด้วยเหตุปัจจัยหลายอย่าง ทั้งตัวเราเอง สภาพแวดล้อม ผู้คนมากมายที่เข้ามากระทบต่อเรา และการเลือกตัดสินใจเลือกทางเดินของเรา ดังคำที่ว่า “อดีตกำหนดปัจจุบัน และปัจจุบันกำหนดอนาคต” ก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสพยากรณ์วิเคราะห์ผลเลือกตั้ง ไว้ล่วงหน้าเกี่ยวกับพรรคการเมืองสีส้ม […]